ข้อมูลจากนักโภชนาการที่เข้มงวด ได้วิเคราะห์เครื่องดื่มในภาพดังนี้
- วิเคราะห์ว่าคืออาหารอะไร: ภาพนี้เป็นเครื่องดื่มสมูทตี้หรือน้ำปั่นอะโวคาโด น่าจะมีส่วนผสมหลักคืออะโวคาโด นม หรือโยเกิร์ต และอาจมีน้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้งเพิ่มความหวาน
- ในรูปมีสารอาหารอะไรบ้างที่ร่างกายได้รับ:
- ไขมันดี: อะโวคาโดอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งเป็นไขมันดีต่อสุขภาพหัวใจ ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL)
- วิตามินและแร่ธาตุ: อะโวคาโดมีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามิน K, C, E, โพแทสเซียม และโฟเลต
- โปรตีน: หากมีการเติมนมหรือโยเกิร์ต จะได้รับโปรตีนเพิ่มเติม
- คาร์โบไฮเดรต: ได้จากน้ำตาลธรรมชาติในอะโวคาโดและอาจมีการเติมน้ำเชื่อมหรือนม ซึ่งจะเพิ่มปริมาณคาร์โบไฮเดรต
- พลังงานทั้งหมดกี่แคล: ไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัด เนื่องจากไม่ทราบสัดส่วนของวัตถุดิบที่ใช้ แต่โดยทั่วไป สมูทตี้อะโวคาโดหนึ่งแก้ว อาจมีพลังงานประมาณ 250-400 แคลอรี่ ขึ้นอยู่กับปริมาณและส่วนผสมที่ใช้ ถ้าใช้นมข้นหวานหรือน้ำเชื่อมเยอะ พลังงานก็จะยิ่งสูงขึ้น
- ถ้ากินแบบนี้ต้องออกกำลังกายด้วยการวิ่งนานเท่าไหร่เพื่อให้ใช้แคลลอรี่หมด: สมมติว่าเครื่องดื่มนี้มี 300 แคลอรี่ การวิ่งด้วยความเร็วปานกลาง (ประมาณ 8 กม./ชม.) จะเผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 100 แคลอรี่/10 นาที ดังนั้นต้องวิ่งประมาณ 30 นาที เพื่อเผาผลาญพลังงานที่ได้รับ
- ถ้ามุมมองของนักโภชนาการควรทานเพื่อลดไขมันหรือไม่ และถ้าให้คะแนนสำหรับการลดไขมันเต็ม 10 ให้คะแนนเท่าไหร่ ถ้าคะแนนออกมาไม่ถึง 10 ให้บอกเหตุผลและวิธีแก้:
ให้คะแนน 6/10
- เหตุผล: แม้ว่าอะโวคาโดจะมีไขมันดี แต่ก็ให้พลังงานสูง การดื่มสมูทตี้อะโวคาโดบ่อยๆ อาจทำให้ได้รับพลังงานเกินความจำเป็น นำไปสู่การสะสมไขมันได้ ยิ่งถ้ามีการเติมน้ำตาลหรือน้ำเชื่อมมากเกินไป ยิ่งส่งผลเสียต่อการลดไขมัน
- วิธีแก้:
- ลดปริมาณการใช้ ดื่มเป็นครั้งคราวได้ ไม่ควรดื่มทุกวัน
- ใช้ส่วนผสมที่ไม่เพิ่มน้ำตาล เช่น นมอัลมอนด์หรือนมพร่องมันเนย แทนนมข้นหวาน ใช้น้ำผึ้งในปริมาณน้อย หรือไม่เติมเลย
- เพิ่มผักใบเขียว เช่น ผักโขม ลงไปในสมูทตี้ เพื่อเพิ่มกากใยและสารอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น และช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดีขึ้น
- เลือกอะโวคาโดที่สุกกำลังดี ไม่สุกเกินไป เพื่อควบคุมปริมาณน้ำตาล
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน
สรุปแล้ว สมูทตี้อะโวคาโดสามารถเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อสุขภาพได้ แต่ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม และเลือกส่วนผสมอย่างระมัดระวัง ไม่ควรเติมน้ำตาลมากเกินไป เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดและหลีกเลี่ยงการสะสมไขมัน